นวัตกรรมไฮโดรเจล (hydrogel) เพื่อผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้ชายสูงวัยและมีแนวโน้มว่าจะพบมากขึ้นเรื่อยๆจากการที่ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2565 อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการวินิจฉัยและรักษาโรคเกี่ยวกับ
มะเร็งต่อมลูกหมากมีความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากทำให้การวินิจฉัยมีความแม่นยำมากขึ้นแล้ว ยังทำให้การรักษามีความปลอดภัย ลดภาวะแทรกซ้อน ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีหลังการรักษา
มะเร็งต่อมลูกหมากรักษาได้ด้วยวิธีใดบ้าง
- การเฝ้าระวังเชิงรุก (active surveillance) เหมาะกับผู้ป่วยที่มะเร็งเติบโตช้า ความดุร้ายต่ำ และยังไม่แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น แต่ต้องติดตามโดยการตรวจ PSA ,MRI Prostate และเจาะชิ้นเนื้อซ้ำ
- การผ่าตัด (radical prostatectomy) มีอยู่ 3 วิธีด้วยกันคือ การผ่าตัดแบบเปิด (open radical prostatectomy) การผ่าตัดโดยใช้วิธีส่องกล้อง (laparoscopic radical prostatectomy) และการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (robotic-assisted da Vinci surgery)
- รังสีรักษา (radiation therapy) มักใช้ในมะเร็งต่อมลูกหมากระยะที่ยังไม่ลุกลามออกนอกต่อมลูกหมาก (localized prostate cancer) มี 2 รูปแบบคือการฉายรังสีและการฝังแร่
การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดกับรังสีรักษาแตกต่างกันอย่างไร
ทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ข้อเสียของการผ่าตัดคือ อาจทำให้มีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศและการกลั้นปัสสาวะ ซึ่งพบได้น้อยโดยการผ่าตัด ด้วยหุ่นยนต์ในขณะที่การฉายรังสีอาจทำให้แสงไปโดนอวัยวะที่อยู่รอบต่อมลูกหมาก เช่น ลำไส้ตรง (rectum) ทำให้ผู้ป่วยท้องเสียหรือปวดหน่วงทวาร โดยประมาณกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยจะเกิดอาการแทรกซ้อนค่อนข้างมากคือท้องเสียและปวดหน่วงทวารจนต้องใช้ยาและที่พบได้น้อยคือลำไส้ทะลุหรือเลือดออก ทำให้ต้องผ่าตัดแก้ไขหรือให้เลือด
นวัตกรรมไฮโดรเจลคืออะไร
ไฮโดรเจลผลิตจากสารโพลีเอธิลีน ไกลคอล (polyethylene glycol: PEG) ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมและย่อยสลายได้ เป็นสารที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วว่ามีความปลอดภัย
นวัตกรรมไฮโดรเจลเป็นวิธีการใหม่ที่ช่วยลดผลแทรกซ้อนจากการรักษาด้วยการฉายรังสีและการฝังแร่ โดยไฮโดรเจลจะทำหน้าที่เหมือนเป็นหมอนคั่นระหว่างต่อมลูกหมากและลำไส้ตรง ด้วยการเพิ่มช่องว่างระหว่างอวัยวะทั้งสอง ซึ่งปกติอยู่ห่างกันประมาณ 2-3 มม. ให้มีระยะห่างเพิ่มขึ้นประมาณ 1ซม. ทำให้ลำไส้ตรงไม่ได้รับรังสีหรือได้รับรังสีน้อยมาก
ขั้นตอนในการฉีดไฮโดรเจลมีอะไรบ้าง
ก่อนการทำหัตถการ แพทย์จะฉีดยาชาหรือยานอนหลับให้กับผู้ป่วย แล้วจึงใช้น้ำเกลือฉีดเข้าไปในช่องว่างระหว่างต่อมลูกหมากกับลำไส้ตรงเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของตำแหน่ง หลังจากนั้นแพทย์จะฉีดสารไฮโดรเจลซึ่งอยู่ในรูปแบบน้ำเข้าไปที่ช่องว่างนั้น เมื่อไฮโดรเจลเข้าสู่ร่างกาย จะเปลี่ยนสภาพเป็นเจลและช่วยขยายช่องว่างระหว่างต่อมลูกหมากกับลำไส้ตรงให้มีขนาดกว้างยิ่งขึ้น กระบวนการฉีดใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที หลังการทำหัตถการ ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้เลย โดยแพทย์อาจให้ยาป้องกันการติดเชื้อซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย มาก ผู้ป่วยอาจมีอาการหน่วงๆรำคาญบริเวณทวารหนักได้ชั่วคราว และร่างกายจะดูดซึมไฮโดรเจลไปตามธรรมชาติจนหมดภายในเวลา 6 เดือน
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2568